รู้จักสรรพคุณ "ฟ้าทะลายโจร" กินอย่างไรให้ปลอดภัย?
ยาฟ้าทะลายโจรมีสาร“แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide)” มีส่วนช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงจึงสามารถใช้รักษาในอาการเบื้องต้นได้เท่านั้น การทานยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ และมีข้อควรระวังในการรับประทานอีกด้วย
ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ป้องกันโควิด-19 แต่ใช้รักษาอาการเบื้องต้น
ยาฟ้าทะลายโจรไม่ได้มีส่วนช่วยในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด แต่ยังมีความสามารถในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้จึงสามารถนำไปใช้เป็นยารักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ดังนั้นการป้องกันโควิด-19 ที่ดีที่สุดคือการทำตามมาตรการความปลอดภัยทั้งสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างจากผู้อื่น รวมไปถึงการฉีดวัคซีนประสิทธิภาพสูง
ทำไมฟ้าทะลายโจรจึงมีส่วนช่วยในการรักษาโควิด-19
จากการศึกษาพบว่าฟ้าทะลายโจรมีสารที่ชื่อว่า “แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide)” ที่สามารถยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ ทำให้ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงมีอาการดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการป้องกันปอดอักเสบ โดยสารชนิดนี้เป็นสารที่ต้องจำกัดปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันอย่างถูกต้องเพื่อให้ยาฟ้าทะลายโจรสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรับประทานยาฟ้าทะลายโจร
ยาฟ้าทะลายโจรมีทั้งแบบแคปซูลและแบบเม็ด ทานวันละ 180 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง ไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 5 วันต่อสัปดาห์ และไม่ควรทานต่อเนื่องเกิน 3 เดือน สำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรซื้อเองตามอินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากอาจไม่มี อย. นอกจากนี้การใช้ยาฟ้าทะลายโจรสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงยังมีข้อควรระวัง ดังนี้
- ยาฟ้าทะลายโจรไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- หากมีอาการจากการติดเชื้อแบคทีเรียไอ เจ็บคอ มีไข้ หนาวสั่น หรือมีตุ่มหนองในไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจร
- ไม่ควรทานร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาลดความดัน โคลพิโดเกรล และวาร์ฟาริน
- ไม่ควรทานเป็นเวลานานกว่ากำหนดเพราะอาจทำให้แขนขาเกิดอาการอ่อนแรง
- หากมีอาการแพ้ เช่น ผื่นขึ้น หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ให้หยุดทานยาฟ้าทะลายโจรทันที
- หากภายใน 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้นควรเข้าพบแพทย์อีกครั้ง
ด้วยความที่ยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ การดูแลตนเองเพื่อส่วนรวมร่วมกับการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงให้ครบโดสเป็นวิธีป้องกันที่ทุกคนควรทำ
เอกสารอ้างอิง
เรียบเรียงโดยโรงพยาบาลเพชรเวช
เข้าชม : 248
|