สาเหตุความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะร่างกายมีปริมาณของกรดยูริคในเลือดสูงกว่าปกติ และกรดยูริกถูกสะสมเป็นระยะเวลานานจนทำให้กรดยูริคตกตะกอน และไปสะสมตัวอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนเป็นที่มาของอาการปวดนั่นเอง ส่วนในกรณีที่กรดยูริคสะสมเกิดการสะสมที่ไตมาก ก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคนิ่วในไตได้
ดังนั้น จึงมีผู้คนมากมายที่พยายามหาวิธีการในการบำบัดโรคเก๊าท์ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดทรมานให้จางหายไปไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทางการแพทย์แผนปัจจุบันหรือหมอพื้นบ้านที่ใช้สมุนไพรในการรักษา

โรคเก๊าท์หายด้วย ตะไคร้ใบเตย – ภาพจาก : http://www.bangkokvoice.com/2014/11/03/bv-health-94/
ในส่วนของสมุนไพร หลายๆท่านเคยบอกไว้ว่า พืชสมุนไพรพื้นบ้านอย่าง “ตะไคร้” สามารถช่วยแก้ปัญหาโรคเก๊าท์ได้เป็นอย่างดี ช่วยล้างพิษโลหิต และมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายอีกมากมาย โดยตะไคร้จัดเป็นพืชสวนครัวที่ปลูกง่าย ใครก็สามารถปลูกไว้ติดบ้านได้ ไม่ว่าจจะปลูกลงดินหรือปลูกในกระถางก็สามารถทำได้ทั้งนั้น เพราะตะไคร้โตง่าย นอกจากนี้ตะไคร้ยังเป็นพืชที่แข็งแรง ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงมากวนใจ ถ้าใครคิดที่จะปลูกผักดีๆที่มีประโยชน์ครอบจักรวาล ตะไคร้คือหนึ่งในคำตอบนั้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นผักประจำครัวที่สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนูแล้ว ยังสามารถรักษาโรคบางชนิดได้ด้วย ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตะไคร้จะกลายเป็นผักสวนครัวที่ใครๆก็นิยมปลูกเอาไว้ในสวนบ้านตัวเอง
มาลองศึกษาสรรพคุณทางสมุนไพรของตะไคร้กันดูสักหน่อยก่อนดีกว่าค่ะ ว่าดีในด้านใดบ้าง…
- การมีฤทธิ์ทางยาที่สามารถบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ได้เป็นอย่างดี
- ตัวช่วยสำคัญในการขับปัสสาวะและหรือเป็นอีกหนึ่งวิธีการสำคัญในการช่วยลดสารพิษตกค้างที่มีอยู่ในร่างกายให้ลดลง
- มีวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อดวงตา และยังมีแร่ธาตุสำคัญอย่างแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงกระดูกและฟันด้วย
- สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ตะไคร้สามารถช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มกลิ่นหอมในอาหารได้ ถ้าใส่มันลงไปจะทำให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยแก้โรคเก๊าท์ หรือโรคข้ออักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากล่าวถึงกันในครั้งนี้นั่นเอง
โรคเก๊าท์หายด้วย ตะไคร้ใบเตย — ภาพจาก : https://www.sanook.com/health/9009/
หากต้องการนำตะไคร้มาใช้ในการบำรุงหรือรักษาโรค จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง สำหรับใครที่อยากจะมีสุขภาพที่ดีตลอดทั้งปี วันนี้เราขอเสนอเมนู “น้ำตะไคร้” ซึ่งสามารถต้มดื่มที่บ้านได้อย่างง่ายดาย รสชาติอร่อยและดื่มง่าย วัตถุดิบและวิธีการมีดังต่อไปนี้เลยค่ะ
มาลองดูส่วนประกอบหรือวัตถุดิบของน้ำตะไคร้กันก่อนค่ะ
- ตะไคร้สดประมาณ 70 กรัม
- น้ำตาล 35-40 กรัม
- น้ำต้มสุก 400 กรัม (ต้มน้ำสะอาดให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น)
- ใบเตย 2-3 ใบ มัดเป็นก้อน
หลังจากที่เตรียมส่วนผสมเรียบร้อย ก็มาลองดูวิธีการทำน้ำตะไคร้กันได้เลย เพราะวิธีไม่ยากเกินกว่าที่คุณจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
- เริ่มต้นจากการล้างตะไคร้ที่เตรียมมาให้สะอาด ให้ค้อนหรืออะไรด็ได้ที่แข็งๆทุบตะไคร้ให้แตก จากนั้นหั่นตะไคร้เป็นท่อนสั้น ๆ
- ต้มน้ำสะอาดให้เดือด ใส่ใบเตยที่มัดเป็นก้อนลงไป 2-3 ใบ ใบเตยจะช่วยเพิ่มกลิ่นที่หอมหวานหรือเพิ่มความน่ารับประทานให้มากขึ้น
- ใส่ตะไคร้ที่ทุบแล้วลงไปต้มในน้ำประมาณ 3 นาที โดยระหว่างต้มห้ามคนหรือกวน
- หลังจากต้มจนได้ที่ ให้กรองเอาใบเตยและตะไคร้ออก
- ปิดไฟและปิดฝาเอาไว้ก่อนให้กลิ่นอบ จากนั้นจึงยกหม้อลง
- กรองน้ำตะไคร้อีกครั้งด้วยผ้าขาวบางที่ซ้อนกัน 2-3 ชั้น
- เติมน้ำตาลทรายเพื่อปรุงรสตามความชอบ คนให้ละลายให้หมด
- เติมน้ำแข็งสำหรับคนที่อยากทานเย็นแบบทันใจ
การรับประทานน้ำตะไคร้สามารถรับประทานได้ทั้งร้อนและเย็น แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์ทางยาอย่างเต็มที่ ควรรับประทานน้ำตะไคร้ตอนที่ยังร้อนๆอยู่ หรือถ้าใครอยากได้ความสดชื่นควบคู่ไปด้วยก็สามารถเติมน้ำแข็งเพิ่มความเย็นได้เช่นกัน
การดื่มน้ำตะไคร้ช่วยให้ร่างกายได้รับการบำรุงมากมายตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่ในบางรายก็อาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น นั่นคือ อาจจะปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากตะไคร้จะเข้าไปช่วยเร่งการขับปัสสาวะได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนดึก ซึ่งอาจจะทำให้การพักผ่อนไม่เต็มที่ ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำตะไคร้ก่อนเข้านอน ส่วนเวลาอื่นๆสามารถดื่มได้เลยไม่ว่ากัน
หากรู้สึกว่าร่างกายกำลังต้องการการเยียวยา ให้สมุนไพรพื้นบ้านของเราเป็นตัวช่วยดูก็ย่อมได้ เพราะนอกจากความอร่อยแล้วยังได้สุขภาพมากกว่าน้ำหวานทั่วๆไปด้วย ดื่มน้ำตะไคร้ทุกวันสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
ที่มา https://www.สุขภาพน่ารู้.com/read/3157