ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอโนนสุวรรณ(กศน.)
บริเวณที่ตั้งของอำเภอโนนสุวรรณสันนิษฐานว่าเป็นบริเวณเก่า พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าบริเวณอื่น จึงมีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เช่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดลพบุลี เป็นต้น ได้มาจับจองพื้นที่เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ เมื่อได้อพยพมาอยู่ก็ได้นำขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มในถิ่นฐานใหม่ ภาษาที่ใช้ส่วนมากจะพูดภาษาไทยอีสาน ภาษไทยสำเนียงโคราช ภาษเขมร และภาษาส่วยแต่ไม่มากนัก ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
การเดินทางเข้าอำเภอโนนสุวรรณ โดยรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ถึงปากทางบ้านถนน ตำบลหัวถนน อำเภอนางรอง ระยะทาง ๗๐ กิโลเมตร และเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางหรือรถรับจ้างจากปากทางหัวถนนถึงอำเภอโนนสุวรรณ ระยะทาง ๑๑ กิโลเมตร รวมทั้งสิ้นระยะทาง ๘๑ กิโลเมตร
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอโนนสุวรรณ จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการจัดตั้งศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอ / กิ่งอำเภอ ลงวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๓๖ (ลงนามโดย นายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ รักษาการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) เลขรหัสจังหวัด (๒๖) บุรีรัมย์ เลขรหัสอำเภอ (๒๔) อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ (อ้างถึงหนังสือกรมการศึกษานอกโรงเรียน ที่ ศธ ๑๑๐๓/๑๘๗๙ ลงวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๖)
วิสัยทัศน์ กศน.โนนสุวรรณ
“ประชาชนอำเภอโนนสุวรรณ สามารถเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ ทุกที่ ทุกเวลาอย่างทั่วถึง”
ปรัชญา
คิดเป็น เห็นคุณค่าการศึกษา เพื่อพัฒนาสังคม
หลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษา
หลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๔๔
๑.เป็นการศึกษาสำหลับผู้พ้นเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับหรือผู้ที่พลาดโอกาสได้รับการศึกษาในระบบหรือในพื้นที่ที่สถานศึกษาในระบบไม่สามารถจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๒ ปีให้ได้
๒. เป็นการศึกษาที่มุ่งให้ผู้เรียนคิดเป็นแก้ปัญหาเป็น โดยเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการและการปฏิบัติจริงที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตประจำวันแล้วนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพได้ทันที
๓.เป็นการศึกษาที่มุ่งพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้เห็นคุณค่าและมีความเชื่อมั่นในตนเองสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตลอดจนแสวงหาความรู้ในการพัฒนาตนเองและสังคมอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
๔.เป็นการศึกษาที่ให้คุณค่าของความรู้ ประสบการณ์ และอาชีพของผู้เรียน โดยผู้เรียนสามารถนำมาเทียบโอนเป็นผลการเรียนตามหลักสูตรได้
๕.ส่งเสริมให้บุคคล องค์กร ชุมชนในสังคมให้มีสวนร่วมในการจัดการศึกษา
การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เป็นการจัดการศึกษาให้กับผู้ที่พลาดโอกาสทางการศึกษาหรือผู้ที่ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่สถานศึกษาในระบบจัดให้ โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ตามแผนการศึกษาชาติ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๒ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๕ ฉบับแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม
การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ
เป็นกิจกรรที่เน้นในการให้ความรู้และทักษะอาชีพในเชิงเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะกระบวนการคิด ให้เกิดความชำนาญในเรื่องนั้นและสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปต่อยอดในการเพิ่มมูลค่าผลผลิต จัดระบบการตลาด การบริหาร การจัดการ อย่างครบวงจร สามารถประกอบอาชีพด้วยตนเองหรือการรวมกลุ่มได้ ซึ่งการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพมีอาชีพที่หลากหลายให้กับผู้ที่ต้องการสนใจอยากจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง
การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมความรู้ความสามารถของบุคคลเพื่อให้สามารถจัดการกับตนเองและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีความสุขตามสภาพและความสงบสุข ความปลอดภัยในสังคม การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต มีสาระสำคัญ ดังนี้
(๑) เป็นการพัฒนาทักษะพื้นฐานของบุคคล เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมของตนและแก้ปัญหาสังคมของตนในสังคมได้อย่างมีความสุข
(๒) เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการองค์ความรู้และกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันเข้าด้วยกัน
(๓) เป็นการจัดการศึกษาในรูปแบบโครงการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมุ่งหมายที่จะเสริมสร้างความสามารถให้กับบุคคลเพื่อมีทักษะชีวิตในการแก้ปัญหาเฉพาะด้าน ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่และแต่ละสถานการณ์
การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน
การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เป็นการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้และทักษะจากการศึกษาที่ผู้เรียนมีอยู่หรือได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียนโดยมีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ใช้ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนาการเรียนรู้และทุนทางสังคมเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีการพัฒนาที่ยั่งยืน
การศึกษาตามอัธยาศัย
เป็นการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองในรูปแบบของการบริการ เช่น ห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ศูนย์ฝึกอาชีพ แหล่งเรียนรู้ชุมชน และแหล่งเรียนรู้อื่นๆ กิจกรรมที่ดำเนินการเป็นกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน จัด ปรับปรุง และพัฒนากิจกรรมให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต จุดประกายความคิดอย่าต่อเนื่อง จัดหาสื่อ วารสาร หนังสือ ที่เป็นองค์ความรู้ที่ทันสมัย รวมทั้งสื่อที่เป็นไปตามความต้องการของผู้มาใช้บริการ มีการบริการสืบค้น และเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
|